นักฟิสิกส์ทำให้เกิดปฏิกิริยานิวเคลียร์โดยเล็งยิงชิ้นวัตถุด้วยอนุภาคเล็ก ๆ (ของอะตอม) ที่มีพลังงานสูง ถ้าบังเอิญอนุภาคที่ว่า ไปโดนนิวเคลียสของอะตอมที่มีอยู่มากมาย ภายในวัตถุชิ้นนั้นเข้า ก็เกิดการเปลี่ยนแปลงอะไรสักอย่าง แต่ถ้าพลาดไปก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ที่จริงจะว่านักฟิสิกส์เล็งยิงก็คงไม่ถูกต้อง เพราะเป้าที่ว่านั้นเล็กมากจนมองไม่เห็น พวกเขาก็สักแต่ว่ายิง ยิง ยิงอนุภาคเข้าไปมาก ๆ และหวังว่าจะยิงโดนบ้าง
จำนวนอนุภาคที่จะยิงโดนเป้านั้น ย่อมขึ้นอยู่กับธรรมชาติของอนุภาคที่ใช้ยิง กับตัวเป้าเอง ซึ่งบางทีก็ยิงโดนเป้าได้น้อยมาก ดังราวกับว่านิวเคลียสที่เป็นเป้านั้น เล็กมากจนไม่มีทางจะยิงโดนได้ง่าย ๆ แต่บางที ทั้งที่เป็นสภาพการณ์แบบเดียวกัน กลับยิงโดนเป้าได้มาก ราวกับว่าเป้ามีขนาดโตกว่ากัน
ดังนั้น นักฟิสิกส์จึงสรุปว่า ภายใต้สภาพการณ์ที่กำหนดใด ๆ นิวเคลียสที่ถูกยิงโดนได้ง่าย มีภาคตัดขวางเชิงนิวเคลียร์ (nuclear cross section) โต ส่วนพวกที่ยิงโดนได้ยาก มีภาคตัดขวางเชิงนิวเคลียร์เล็ก และแม้แต่นิวเคลียสที่ว่า ถูกยิงโดนได้ง่ายนั้น ก็มีภาคตัดขวางแค่ประมาณ 1024 ตารางเซนติเมตร ซึ่งหมายความว่า ถ้าเอานิวเคลียสมาวางแผ่เรียงกัน 1 ล้านล้านล้านล้านนิวเคลียส ก็จะกินเนื้อที่เพียง 1 ตารางเซนติเมตรเท่านั้น |