อะตอมเพื่อนของเรา (1)
อารัมภบท

สุรศักดิ์ พงศ์พันธุ์สุข
กลุ่มวิจัยและพัฒนานิวเคลียร์
สถาบันเทคโนโลยีนิวเคลียร์แห่งชาติ (องค์การมหาชน)

            มนุษยชาติช่างเต็มไปด้วยความอยากรู้อยากเห็น
            สามพันปีก่อน มีมนุษย์คนหนึ่งอยากรู้ว่าน้ำกับไฟมีสมบัติต่างกันอย่างไร
            พันห้าร้อยปีก่อน มนุษย์อีกคนหนึ่งพยายามแปรธาตุตะกั่วให้เป็นทองคำ
เกือบเจ็ดสิบปีก่อน
            มีมนุษย์อีกสองคนที่ค้นพบว่าภายในอะตอมเล็กนิดเดียวที่แม้แต่ใช้กล้องจุลทรรศน์ส่องดูก็ยังมองไม่เห็น แฝงไว้ด้วยพลังอันมหาศาลที่เรียกกันว่า พลังงานนิวเคลียร์
            หกสิบกว่าปีก่อน ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สอง สหรัฐอเมริกาทิ้งระเบิดนิวเคลียร์ประเทศญี่ปุ่นที่เมืองฮิโรชิมาและนางาซากิ มีผู้เสียชีวิตรวมกันนับแสนคน
            แต่ในห้าสิบกว่าปีมานี้ พลังงานนิวเคลียร์ถูกนำมาผลิตกระแสไฟฟ้า ขับเคลื่อนเรือสินค้าขนาดใหญ่ เรือตัดน้ำแข็งขั้วโลกเหนือ รวมทั้งเรือดำน้ำ เทคโนโลยีนิวเคลียร์ถูกนำมาใช้อย่างกว้างขวางทั้งในอุตสาหกรรม เกษตร โดยเฉพาะทางการแพทย์
            เห็นได้ว่า การใช้พลังงานนิวเคลียร์ให้เป็นคุณหรือโทษนั้น ขึ้นอยู่กับมนุษย์เองที่เป็นผู้ตัดสินใจ ว่าจะให้พลังงานนิวเคลียร์เป็นพระเอกหรือผู้ร้ายก็ได้ เปรียบได้กับนิทานปรัมปราที่แล้วแต่ว่าผู้เขียนจะกำหนดเค้าโครงเรื่องให้เป็นอย่างไร
            จะว่าไป เรื่องของพลังงานนิวเคลียร์ก็มีเค้าโครงเรื่องคล้ายกับนิทานอาหรับราตรีที่มีชื่อเสียงมากเรื่องหนึ่งคือ “ชาวประมงกับจีนี่” และบางทีเราควรต้องนำนิทานเรื่องนี้เอาไว้เตือนใจเราไว้เสมอ ๆ

 
ชาวประมงกับจีนี่
 

            กาลครั้งหนึ่งมีชาวประมงชราผู้ยากจนคนหนึ่ง อาศัยอยู่กับภรรยาและลูกอีก 3 คน แต่ละวันเขาจะไปที่ริมทะเลทอดแหจำกัดเพียงวันละ 4 ครั้ง และจะพอใจเพียงเท่านั้นไม่ว่าจะทอดได้หอย ปู ปลา มากน้อยเท่าใด
            อยู่มาวันหนึ่ง หลังจากทอดแหไปแล้ว 3 ครั้งโดยไม่ได้อะไรขึ้นมาเลย ขณะสาวแหที่ทอดเป็นครั้งที่สี่ขึ้นมา เขาก็พบว่ามันหนักกว่าทุกที และเมื่อตรวจดูว่าเขาได้อะไรขึ้นมาบ้างก็พบว่า นอกจากหอยและสาหร่ายทะเลแล้ว ก็มีภาชนะทองเหลืองติดขึ้นมาด้วย ที่ปากภาชนะมีฝาปิดและผนึกด้วยตราโบราณของกษัตริย์โซโลมอนที่มีอายุกว่า 1,800 ปีมาแล้ว

            “ดีกว่าได้ปลาเสียอีก” เขาโพล่ง “ไหใบนี้ฉันขายได้นี่นา แล้วใครจะไปรู้ บางทีในไหอาจจะมีของมีค่าอยู่ก็ได้”
ชาวประมงชราใช้ปลายมีดแงะฝาภาชนะออกและก้มดูว่าข้างในมีอะไร ทันใดก็มีควันพวยพลุ่งอกมา และเขาผงะล้มไปด้านหลังด้วยความตกใจ ควันนั้นก็พลุ่งขึ้นสูงเป็นลำสีดำขนาดใหญ่คล้ายกับดอกเห็ดขนาดยักษ์ขวางกั้นอยู่ระหว่างดินกับฟ้า แล้วความตกใจของเขาก็เปลี่ยนไปเป็นความหวาดกลัว เมื่อควันนั้นก่อตัวเป็นร่างมหึมาของยักษ์จีนี่ ที่มีดวงตาลุกแดงโพลงราวดวงเพลิง พร้อมกับมีควันลูกไฟที่หมุนวนรอบกายร้อนแรงดังราวลมร้อนแห่งทะเลทราย

            “โอ้” ชาวประมงชราร้องออกมาพร้อมกับคุกเข่าสองข้างลง “โอ จีนี่ ไว้ชีวิตข้าเถิด ข้าเป็นเพียงคนจน ๆ ที่ไม่อาจคุกคามท่านได้”
            จีนี่มองลงมายังร่างอันสั่นเทาของชายชรา
            “รู้ไว้” เสียงจีนี่ดังราวฟ้าร้อง “ว่าที่เจ้าทำให้ข้าได้รับอิสระนี้ เจ้าจะต้องตาย เพราะข้าเป็นวิญญาณที่ถูกลงโทษเมื่อนานมาแล้ว เพราะไม่เชื่อฟังกษัตริย์โซโลมอน พระองค์จึงขังข้าไว้ในไหทองเหลืองใบนี้ ผนึกที่ฝาด้วยตราของพระองค์ แล้วสั่งให้นำไปทิ้งลงในทะเล ให้ทิ้งไว้เช่นนั้นตลอดกาล หรือจนกระทั่งมีมนุษย์บังเอิญนำมันกลับขึ้นมาและปล่อยข้าให้เป็นอิสระ”
            ชายชรานิ่งฟังด้วยความกลัวขณะที่เพลิงในดวงตาของจีนี่ลุกโพลง
“หลายร้อยปีที่ผ่านไป” เสียงดังลั่นของจีนี่ดังต่อไป “ที่ข้าถูกกักขังอยู่ใต้ทะเลลึก ข้าตั้งสัจจะวาจาว่าจะให้พรใดก็ได้แก่ผู้ที่ปลดปล่อยข้าเป็นอิสระ แม้แต่จะให้เป็นผู้ที่มั่งคั่งที่สุดในโลกถ้าเขาจะปรารถนา แต่ก็ไม่มีผู้ใดเลย ในที่สุดด้วยความขมขื่น ข้าก็ปฏิญาณว่า ผู้ที่ปล่อยข้าเป็นอิสระ แต่ทว่าช้าเหลือเกิน เขาจะไม่ได้รับพรใด-นอกจากให้เลือกเองว่าเขาต้องการจะตายอย่างไร เจ้า-ตาเฒ่าเอย เจ้าเป็นผู้ให้อิสระแก่ข้า และตามคำปฏิญาณของข้า เจ้าต้องตาย”
            “โอ” ชาวประมงคร่ำครวญ “ทำไมข้าต้องเกิดมาเพื่อปล่อยท่านเป็นอิสระ? ทำไมข้าต้องทอดแหและได้ไหที่ถูกสาปใบนี้ขึ้นมาด้วย? แล้วทำไมท่านต้องให้ความตายเป็นรางวัลแก่ข้าด้วย?”
            ลมลูกไฟหมุนวนรอบกายจีนี่เร็วขึ้นพร้อมกับท่าทางโบกมือไม้ของจีนี่อย่างหมดความอดทน “ชาวประมง” จีนี่คำราม “อย่าถ่วงเวลา บอกมาว่าอยากจะตายอย่างไร”
            ชาวประมงแก่กลัวจนหมดหัวใจ แต่ในช่วงคับขันอันตรายกลับทำให้เขาสามารถบีบเค้นปัญญาความคิดหาทางเอาตัวรอด
            “โอ จีนี่” เขาร้องขอ “ถ้าข้าต้องตาย ก็คงไม่เป็นอื่นไปได้ แต่ก่อนอื่นขอพรแก่ข้าประการหนึ่งก่อนเถิด ข้าไม่อยากเชื่อเลยว่าร่างกายโตใหญ่ของท่านดูเหมือนออกมาจากภาชนะใบเล็กนิดเดียวนี้หรือ พิสูจน์ให้ข้าได้เห็นหน่อยเถิดว่าผู้ที่ยิ่งใหญ่ปานนี้จะเข้าไปอยู่ในไหใบน้อย ๆ เช่นนี้ได้จริง”
            ดวงตาจีนี่ยิ่งสาดประกายจ้า ยืดร่างตระหง่านเหนือชาวประมงที่ยิ่งดูตัวเล็กลงไปอีก
            “ตาเฒ่า” เสียงจีนี่ดังราวฟ้าร้อง “ก่อนตายเจ้าจงดู ว่าไม่มีสิ่งใดทรงอำนาจเหนือข้า”
            อย่างรวดเร็ว ร่างของจีนี่ก็กลายเป็นก้อนควันและดูดหายกลับลงไปในไหทองเหลือง พลันชาวประมงก็กระโดดไปข้างหน้าและปิดฝาไหที่มีตรากษัตริย์โซโลมอนกลับลงไปที่ปากไห
            “ทีนี้ละ” ชาวประมงตะโกนบอกจีนี่ที่ถูกขังกลับลงไปในไห “ถึงตาท่านแล้ว จงเลือกเองเถิด ว่าท่านอยากจะตายอย่างไร! ท่านเป็นนักโทษอีกครั้งแล้ว และข้าจะโยนท่านกลับลงไปใต้ทะเล และข้าจะเตือนว่ามียักษ์ร้ายจีนี่แก่ชาวประมงทุกคน และลูกหลานของพวกเขาจากรุ่นหนึ่งสู่รุ่นหนึ่ง ไม่ให้พวกเขามาทอดแหที่นี่ และท่านก็จะจมอยู่ที่ก้นทะเลตรงนี้ไปชั่วกัลป์”
            เสียงสั่นระรัวเบาหวิวของจีนี่ดังลอดปากไหออกมาว่า “จงหยุด จงหยุดก่อน ปล่อยข้ากลับออกไปอีกครั้งแล้วท่านจะไม่ต้องตาย”
            ชาวประมงยกไหขึ้นทำท่าจะเหวี่ยงมันลงไปในคลื่นทะเล “โอ้ จีนี่” เขาพูดขึ้น “มีแต่เหวี่ยงท่านกลับลงไปในทะเลนี่แหละ ข้าจึงจะปลอดภัย”
            น้ำเสียงที่ออกมาจากไหใบน้อยยิ่งสั่นระรัว “ชาวประมง จงฟังข้าก่อน! เจ้าไม่ต้องตาย และจะอยู่อย่างร่ำรวย! คืนอิสรภาพแก่ข้าและข้าสาบานต่อหน้าองค์อัลเลาะห์ว่า จะให้พรแก่ท่านสามประการ ให้ท่านร่ำรวยและมีความสุขจนชั่วชีวิต ชาวประมงผู้ประเสริฐ ได้ยินคำสาบานจากใจข้าแล้วนะ!”
            ชายชรามีใจโกรธแค้นเพียงเล็กน้อย แต่คิดว่าจีนี่ที่กลับเป็นมิตรจะช่วยครอบครัวอันแร้นแค้นหิวโหยของเขาได้อะไรบ้าง เสียงร้องขอความปราณีของจีนี่ยังดังไม่หยุด และชาวประมงก็เปิดฝาไหออกในที่สุด
            กลุ่มควันลอยออกมาอีกครั้ง และร่างยักษ์ปักหลั่นของจีนี่ก็ปรากฏขึ้นอีกครั้ง คราวนี้จีนี่เตะไหทองเหลืองหมุนคว้างกระเด็นไกลออกไปในทะเล
            ชาวประมงชราเห็นดังนั้นร่างก็สั่นสะท้านด้วยความหวาดกลัวอย่างที่สุด แต่จีนนี่หันกลับมาหา ร่างสูงชะลูดค้อมให้และกล่าวอย่างสุภาพว่า
“อย่าได้กลัวเลย ท่านรับฟังคำสาบานของข้า โอ ชาวประมง นายข้า จงบอกมา พรสามประการใดที่ท่านปรารถนา......”

            นิทานเรื่องนี้จบลงโดยจีนี่ช่วยให้ชาวประมงร่ำรวยขึ้นมาได้ และสะท้อนความปรารถนาของมนุษย์เพื่อจะเป็นนายของทาสที่ทรงพลังอำนาจโดยต้องมีการต่อรองกัน
            เรื่องของพลังงานนิวเคลียร์ก็เป็นไปในทำนองเดียวกัน พวกเราทุกคนก็เป็นเสมือนกับชาวประมง หลายร้อยปีที่พวกเราเหวี่ยงแหลงไปในทะเลแห่งความไม่รู้อันกว้างใหญ่เพื่อแสวงหาความรู้ ในที่สุดเราก็ทอดแหขึ้นมาได้เป็นภาชนะใบน้อยคือ อะตอม ที่ภายในประจุไว้ด้วยพลังอันมหาศาล นั่นคือ พลังงานนิวเคลียร์
            เช่นเดียวกับชาวประมง มนุษย์อัศจรรย์ใจกับสิ่งประหลาดที่ค้นพบและตรวจสอบมันอย่างละเอียดว่ามีคุณค่าใด เขาเปิดมันออกสำเร็จโดยการแบ่งแยกอะตอมออกเป็นสองซีก และนั่นพลังอันมหาศาลก็ถูกปลดปล่อยออกมาและขู่จะฆ่าล้างทำลายด้วยวิธีการตายที่เลวร้าย ทั้งด้วยความร้อนดังไฟประลัยกัลป์ ด้วยแรงระเบิดมหาศาล และยังมีรังสีร้ายแรงที่มองไม่เห็น
ชาวประมงอัศจรรย์ใจกับยักษ์จีนี่เพียงใด มนุษย์เมื่อค้นพบอานุภาพของพลังงานนิวเคลียร์ในอะตอมน้อย ๆ ก็อัศจรรย์ใจเพียงนั้น
            ชาวประมงอย่างเรา ทั้งอัศจรรย์ใจและหวาดกลัว จ้องมองผลอันน่ากลัวจากความอยากรู้อยากเห็นของเราเอง นิทานนี้จบลงด้วยความสุข และทุกวันนี้พลังงานนิวเคลียร์ของเราก็ดำเนินไปด้วยความสุขได้เช่นกัน เหมือนกับชาวประมง เราได้บีบเค้นปัญญาความคิดของเราออกมา ด้วยความรู้ทางวิทยาศาสตร์ที่สั่งสมมา เราสามารถควบคุมยักษ์จีนี่ให้มาสู่ทิศทางแห่งสันติและมีประโยชน์ ค้อมคำนับให้แก่เราและมอบพรเหล่านี้แก่ โดยพรทั้งสามประการนี้สามารถและจะสร้างสรรค์ชีวิตในอนาคตที่ดีงามแก่มนุษยชาติได้
            นี่ก็คือเรื่องราวของอะตอมเพื่อนของเรา เรื่องว่าภาชนะอะตอมถูกค้นพบได้อย่างไร มนุษย์ได้เรียนรู้ความลับอันอัศจรรย์หลายหลากของอะตอมได้อย่างไร ยักษ์จีนี่ในอะตอมถูกปลดปล่อยออกมาได้อย่างไร และเราต้องทำอะไรบ้างเพื่อให้ยักษ์จีนี่เป็นทั้งเพื่อนและผู้รับใช้ของเรา

แปลและเรียบเรียงจาก PROLOGUE ของหนังสือ The WALT DISNEY story of OUR FRIEND THE ATOM by Heinz Haber, Published by DELL PUBLISHING CO., INC., N.Y., 1956